ทองคำเป็นหนึ่งในสินค้าที่ไทยต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ และต้องอ้างอิงราคาสินค้าในตลาดต่างประเทศด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ถึงแม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่ราคาทองในประเทศไทยก็ยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่เปลี่ยนไป
ในสถานการณ์ข้างต้นหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นราคาทองคำในประเทศก็จะลดลง ในทางกลับกันหากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงก็จะทำให้ราคาทองคำในประเทศแพงขึ้น
นับตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาจนถึงกลางเดือน ส.ค.ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากบริเวณ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ กลายเป็น 35.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับว่าคนไทยจะต้องใช้เงินบาทเพิ่มขึ้นประมาณ 4 บาท จากเดิม 100 บาท หากเป็นการซื้อของชิ้นเดิมด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ในช่วงระยะเวลาเดียวกันราคาทองคำในตลาดโลกลดลงจาก 1,960 ดอลลาร์/ออนซ์ เหลือ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือประมาณ 3% แต่ราคาทองคำแท่งในประเทศไทยกลับเพิ่มสูงขึ้นจาก 31,750 บาท/บาททอง เป็น 31,850 บาท/บาททอง เนื่องมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากกว่า
สาเหตุที่เงินบาทอ่อนค่าในช่วงนี้มาจากทั้งปัจจัยภายนอกประเทศโดยเกิดการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ หลังรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ล่าสุดยังคงสะท้อนว่าเฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ส่วนปัจจัยภายในประเทศมาจากสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลทำให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายสินทรัพย์ในรูปเงินบาทออกไปในช่วงนี้