ทองยังลงยาก หากเงินเฟ้อยุโรปยังสูง
ในสถานการณ์ปกตินักลงทุนทองคำจะเพิ่งเล็งระดับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพราะเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์รวมไปถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์คู่แข่งกับทองคำเนื่องจากถูกจัดให้มีความเสี่ยงใกล้เคียงกัน
เมื่อระดับเงินเฟ้ออยู่สูงเกินไปเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดูดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกันหากระดับเงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมายที่วางไว้เฟดก็จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งรายงานอัตราเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 3% ซึ่งลดลงมาอย่างต่อเนื่องจาก 9.1% และเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% เข้าไปทุกทีจนเชื่อได้ว่าเฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้
แต่อัตราเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปในเดือน มิ.ย. ยังคงอยู่ที่ระดับ 5.5% จึงมีโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้กระแสเงินลงทุนเริ่มไหลออกจากสหรัฐฯไปยังยุโรปหากผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยของยุโรปมีแนวโน้มสูงกว่าสหรัฐฯ
หากสถานการณ์ยังคงดำเนินไปเช่นนี้จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและหนุนราคาทองคำให้สูงขึ้นได้เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกถูกซื้อขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์เป็นหลัก หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้ต้องใช้เงินดอลลาร์มากขึ้นเพื่อให้ได้ทองคำในปริมาณเท่าเดิม หรือเท่ากับราคาทองคำมีราคาแพงขึ้นโดยอัตโนมัติ