ในช่วงคืนวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. หัวหน้ากองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ประกาศ ก่อกบฏด้วยอาวุธ โดยมีเป้าหมายเพื่อขับไล่ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย หลังมีเรื่องบาดหมางกันมานานตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบในประเทศยูเครน โดยรายงานข่าวระบุว่าทหารกลุ่มนี้ได้เคลื่อนกำลังพลออกจากยูเครนไปถึงรอสตอฟทางตอนใต้ของรัสเซีย มีเป้าหมายคือ ขับไล่คนคุมกระทรวงกลาโหมดังกล่าวที่มอสโก

กลุ่มนักรบรับจ้างวากเนอร์เป็นกองกำลังกึ่งทหารที่ก่อตั้งโดย นายเยฟเกนี ปริโกซิน มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 ขณะที่รัสเซียใช้กำลังเข้าผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครน โดยระยะหลังกลุ่มวากเนอร์และรัฐบาลรัสเซีย ภายใต้การนำของวลาดิเมียร์ ปูติน เกิดปัญหาไม่ลงรอยกันบ่อยครั้งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาความไม่พอใจจากการที่รัฐบาลรัสเซียไม่ยอมส่งกำลังบำรุงให้ทางกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์อย่างเพียงพอ จนทำให้กลุ่มวากเนอร์เสียเปรียบยูเครน และสูญเสียนักรบไปจำนวนมาก จนนำมาสู่การเผชิญหน้ากันในครั้งนี้

ถึงแม้ว่าในวันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย. ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของ เบลารุส ในฐานะคนกลาง ประกาศว่าเขาสามารถบรรลุข้อตกลงกับคู่ขัดแย้งได้แล้ว และผู้นำกลุ่มแวกเนอร์ยืนยันว่าขบวนนักรบแวกเนอร์ได้เดินทางกลับค่ายในสนามรบที่ประจำการอยู่ แต่ก็ยังต้องเป็นเรื่องที่น่าติดตามต่อไปว่าจะมีเหตุร้ายปะทุขึ้นมาจนบานปลายหรือไม่

เพราะรัซเซียในขณะนี้ยังคงเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและวัตถุดิบที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมในปัจจุบันปริมาณมาก หากรัฐบาลรัซเซียเกิดความสั่นคลอนจนทำให้การส่งออกต้องสะดุดลง ก็อาจทำให้ทั้งโลกต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงอีกครั้งสวนทางความคืบหน้าว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และทองคำอาจกลับมาเป็นที่ต้องการของนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย