สหรัฐฯ เพิ่มเพดานหนี้ เงินดอลลาร์จะยิ่งเสื่อมค่า
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2566 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา มีมติ 314-117 เสียง ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางจำนวน 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราวกว่า 1 พันล้านล้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำหนี้ครั้งใหญ่ของรัฐบาลที่จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา และอาจลุกลามไปทั่วโลก
ในระยะสั้นจะเปิดโอกาสให้รัฐบาลสหรัฐฯ กู้เงินมาใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลรวมไปถึงนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งจะทำให้สกลุเงินดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นที่ต้องการในตลาดโลกอยู่ถึงแม้ความไม่มั่นใจจากประชาคมโลกจะมีมากขึ้น
เพราะในระยะยาวทุกคนรู้ดีว่าเมื่อของบางอย่างมีปริมาณมากขึ้นในขณะที่ความต้องการยังคงมีอยู่ในระดับเดิมหรือลดลง ราคาที่คนจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาย่อมลดลงไปด้วย จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้นมหาศาลนับตั้งแต่ยกเลิก ระบบมาตรฐานทองคำ (gold standard)
ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างเจนในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งธนาคารทั่วโลกอัดฉีดเงินเข้าสู่มือประชาชนจำนวนมากทำให้เงินเหล่านั้นถูกเปลี่ยนไปเป็นสินทรัพย์ทั้งที่จับต้องได้และไม่ได้จนราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนทางกับมูลค่าของเงินหรือเกิดภาวะเงินเฟ้อนั่นเอง
หากในอนาคตชาวอเมริกันไม่มีความสามารถมากพอที่จะสร้างรายได้มาชดเชยหนี้สินที่มีอยู่ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดความโกลาหลทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ และทองคำจะถูกนำมาทดสอบอีกครั้งในฐานะสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าในตัวเองไว้ได้