ธนาคารกลางยังซื้อทองต่อเนื่อง
สภาทองคำโลก(WGC) รายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว อุปสงค์ทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากธนาคารกลางต่าง ๆ ยังคงเร่งซื้อทองคำในอัตราที่สูงจนน่าตกใจ ในขณะที่แนวโน้มในปีนี้ ก็คาดว่าบรรดาธนาคารกลาง จะยังคงเป็นผู้ผลักดันอุปสงค์ทองคำต่อไป โดยที่เหล่านักลงทุนใน ETF จะเข้ามาร่วมวงด้วย
ในปี 2567 ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำรวม 1,045 เมตริกตัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 96,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการซื้อทองคำมากกว่า 1,000 ตันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยธนาคารกลางโปแลนด์เป็นผู้ซื้อทองคำสุทธิรายใหญ่ที่สุด ซึ่งเพิ่มทองคำในทุนสำรองอีก 90 ตัน ขณะที่ธนาคารกลางของตุรกี ตุนทองคำเพิ่มอีก 75 ตัน ส่วนธนาคารกลางแห่งอินเดีย ก็ซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ยกเว้นเพียงเดือนธันวาคมเท่านั้น
ขณะที่การลงทุนรวมในทองคำในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 1,180 ตัน แต่หากรวมการซื้อทองคำของธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง ผสานกับการเติบโตของความต้องการการลงทุน ทำให้ปริมาณการทำธุรกรรมทองคำทั้งหมดในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 4,974 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 4,899 ตันในปี 2566
นักยุทธศาสตร์การตลาดจากสภาทองคำโลก ระบุว่า การซื้อของธนาคารกลางมาจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงดำเนินอยู่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการที่จะเพิ่มการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน
ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว กระตุ้นให้เกิดกระแสเงินไหลเข้าทั่วโลกสู่กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำ (ETF) ที่มีการค้ำประกันทางกายภาพ ซึ่งรวมถึงจากนักลงทุนตะวันตกด้วย สภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลงเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน