สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันจันทร์ (23 ก.ย.) โดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมทั้งสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีความตึงเครียดมากขึ้น
.
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 2,652.50 ดอลลาร์/ออนซ์
.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 42 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 31.085 ดอลลาร์/ออนซ์
.
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18.90 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 973.10 ดอลลาร์/ออนซ์
.
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 33 ดอลลาร์ หรือ 3.06% ปิดที่ 1,045.10 ดอลลาร์/ออนซ์
.
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 18 ก.ย. พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้
.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดอิสราเอลได้ส่งเครื่องบินรบโจมตีพื้นที่ตอนใต้และทางตะวันออกของเลบานอนเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,000 ราย
.
พลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า IDF กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ปฏิบัติการทางทหารขั้นตอนต่อไปในเลบานอน หลังจากทำการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เมื่อวานนี้ ขณะที่ ดมิทรี เจนเดลแมน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลได้เข้าสู่ระดับใหม่ของการเผชิญหน้ากับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยจะไม่มีเส้นแดงอีกต่อไป
.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)