สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (3 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่าใดในการประชุมเดือนนี้
.
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.60 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,523.00 ดอลลาร์/ออนซ์
.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 79.9 เซนต์ หรือ 2.74% ปิดที่ 28.344 ดอลลาร์/ออนซ์
.
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 22.30 ดอลลาร์ หรือ 2.39% ปิดที่ 909.90 ดอลลาร์/ออนซ์
.
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 29.50 ดอลลาร์ หรือ 3.06% ปิดที่ 933.30 ดอลลาร์/ออนซ์
.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 101.825 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
.
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก่อนที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย.
.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 18 ก.ย. และให้น้ำหนัก 31.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00%
.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.2% ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.3% ในเดือนก.ค.