แบงค์ชาติจีนหยุดซื้อทอง กดราคาร่วง
สื่อต่างประเทศต่างประโคมข่าวในวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย. ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระงับการซื้อทองเข้าสู่กองทุนสำรองในเดือน พ.ค. หลังจากที่ได้ซื้อติดต่อกันเป็นเวลา 18 เดือน จนส่งผลต่อราคาทองสปอตพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว ทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อมีการายงานข่าวดังกล่าวออกมาก็ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทองคำจนราคาร่วงลงมาถึง 1.5%
ข้อมูลของทางการจีนระบุว่า จีนได้ถือครองทองจำนวน 72.80 ล้านทรอยออนซ์ ณ สิ้นเดือนพ.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากสิ้นเดือนเม.ย. ขณะที่มูลค่าทองคำสำรองของจีน ณ สิ้นเดือน พ.ค.พุ่งสู่ระดับ 1.7096 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.6796 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือน เม.ย.
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาจาก ความต้องการซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนเป็นผู้ซื้อทองมากที่สุดในปี 2566 โดยซื้อสุทธิ 7.23 ล้านออนซ์ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดภายในปีเดียวนับตั้งแต่ปี 2520
ในเดือน พ.ค. 2567 ทองคำทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นั้นมีแรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความต้องการทองคำแท่งของธนาคารกลางจีนที่พยายามเพิ่มทุนสำรองและป้องกันการอ่อนค่าของเงินหยวน