ตลาดปั่นป่วน ตะวันออกกลางระอุ
ความเคลื่อนไหวในโลกการเงินปั่นป่วนอย่างหนัก เมื่อเช้าวันที่ 19 เม.ย. หลังเกิดเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีอิหร่านเพื่อเป็นการตอบโต้การโจมตีของอิหร่านก่อนหน้านี้ ทำให้สินทรัพย์ทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างหนัก โดยเฉพาะราคาน้ำมันซึ่งปรับเพิ่มขึ้นทันที พร้อมราคาทองคำ ในขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทั่วหน้า
นักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นตรงกันว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นและจะนำไปสู่ 3 สถานการณ์ที่เป็นไปได้ 3 กรณีได้แก่ 1.สงครามแบบเบา (Confined war) 2.สงครามตัวแทน (Proxy war) และ 3.สงครามโดยตรง (Direct war)
จากเหตการณ์ปัจจุบันยังให้น้ำหนักกรณีที่ 2 คือ เป็นสงครามตัวแทน หรือ Proxy War โดยคาดการณ์ว่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นได้อีกเล็กน้อย เช่นเดียวกับราคาทองคำ และจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะยังอยู่ในระดับสูงจากการเน้นย้ำธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังดี และเงินเฟ้อยังไม่ลดลงไปยังเป้าหมาย จะมีโอกาสตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือหากจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็อาจลดลงเหลือเพียง 2 ครั้ง จากเดิมที่คาดไว้ 4 ครั้ง
ราคาทองจึงมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นได้แต่ก็มีเพดานที่จำกัดจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็อาจส่งผลให้ราคาทองพุ่งสูงอย่างมากได้