คนไทยตื่นทอง ลุ้นบาทละ 38,000 บาท
นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาทองคำที่แพงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เกิดปรากฏการณ์พฤติกรรมคนซื้อขายทองคำที่เปลี่ยนไปจากอดีต ที่หากทองปรับขึ้นแพง ๆ จะนำทองมาขายเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีทั้งซื้อและขาย ล่าสุดสัดส่วนการซื้อจะมากกว่าขายเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าเกิดจากความเชื่อว่า ราคาทองคำจะยังปรับขึ้นไปต่อได้ จึงทยอยสะสมไว้เก็งกำไร เพราะคนที่มาซื้อส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งมากกว่าทองรูปพรรณที่ยังขายไม่ค่อยดี เนื่องจากกำลังซื้อไม่มี
จากสถานการณ์ราคาทองคำขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นวันละหลายครั้งจนทำสถิติสูงสุดที่ 2,195 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศไทยอยู่ที่ 36,650 บาท/บาททอง เมื่อวันที่ 12 มี.ค.
นายกสมาคมค้าทองคำกล่าวว่า ปีนี้ยังมองว่าราคาทองคำแท่งในประเทศจะไปถึง 38,000 บาทได้ แต่อาจจะเป็นช่วงที่ยาวพอสมควร โดยต้องรอดูเฟดลดดอกเบี้ย ซึ่งจะประมาณไตรมาส 2/2567 จะทำให้ราคาทองขึ้นไปต่อได้อีก ส่วนจะไปถึง 40,000 บาทได้หรือไม่นั้น ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน ตอนนี้มองแค่ 38,000 บาทก่อน เพราะต้องรอดูด้วยว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยกี่ครั้งในปีนี้
แต่สำหรับทองรูปพรรณที่ขายไม่ค่อยดี ร้านทองก็มีการปรับตัวทำโปรดักต์ออมทองเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงทองที่ราคาจับต้องได้ ส่วนในแง่ร้านทองตู้แดงนั้น สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าอยู่ได้ เพราะทองที่ขึ้นราคามามาก ช่วยให้ร้านทองมีกำไร แม้จะขายทองรูปพรรณไม่ค่อยได้ก็ตาม ดังนั้นจะไม่ค่อยเห็นร้านทองปิดตัวช่วงนี้ แต่ที่ผ่านมาที่มีการปิดตัวไปบ้าง ถือว่าแค่บางส่วน ที่พอเปลี่ยนรุ่นการบริหารแล้ว รุ่นลูกอาจจะไม่ได้อยากทำธุรกิจร้านทองอีก