สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ห่วงโซ่อุปทานโลกเริ่มได้รับผลกระทบจากกรณีที่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงแล้ว โดยค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 200-400% ในวันจันทร์ที่ 15 ม.ค. เนื่องจากระยะเวลาการเดินทางที่ยาวนานขึ้นเพราะต้องเปลี่ยนเส้นทางอ้อมไกลผ่านทวีปแอฟริกา

ในขณะที่ สหรัฐฯ และอังกฤษเปิดปฏิบัติการโจมตีทั่วเยเมน เพื่อตอบโต้กองกำลังฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านที่โจมตีการขนส่งทางเรือในทะเลแดง ทำให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคที่กว้างขึ้น อันเป็นผลมาจากสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา

เรือคอนเทนเนอร์ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงคลองสุเอซที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นทางลัดระหว่างเอเชียและยุโรปที่ครองสัดส่วนการค้าโลกถึง 12% และการขนส่งน้ำมันของทั่งโลก 7% ด้านกองทัพสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรได้แนะนำให้เรือทุกลำหลีกเลี่ยงจากเขตความขัดแย้ง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกลัวว่าอัตราค่าระวางของเรือบรรทุกน้ำมันและเรือบรรทุกที่ขนส่งสินค้าสำคัญๆ อาจพุ่งสูงขึ้นอีก ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อโลกรอบใหม่

หากเทียบเคียงกับกรณีเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ Ever Given เกยขวางคลองสุเอซเมื่อเดือน มี.ค. 2021 นั้นมีผลกระทบต่อเงินเฟ้ออยู่บ้าง แต่ในครั้งนี้เป็นผลสืบเนี่องมาจากสงครามระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส ซึ่งอาจขยายวงต่อไปอีกได้ สร้างความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้นจนอาจทำให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นได้อีกจนกว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มยุติลง