ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกและราคาทองคำในประเทศไทยได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All time high) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. โดยราคาทองคำแท่งในประเทศขึ้นไปสูงสุดที่บาทละ 34,400 บาท จากที่เคยมีราคาเพียงบาทละ 416 บาทเมื่อปี 2510 ทำให้ปริมาณการซื้อทองคำของคนไทยค่อยๆลดลงและบรรยากาศร้านทองต่างซบเซาลงไปด้วยเช่นกัน

นายชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์ นายกสมาคมค้าทองคำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ปกติแล้วช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อทองเป็นของขวัญกันอย่างคึกคัก แต่ปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แม้ว่าราคาทองคำช่วงนี้จะสูงขึ้น แต่คนที่จะเอาทองคำมาขายก็ไม่ได้มากนัก เนื่องจากหลายคนก็นำทองมาขายหมดก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนลูกค้าที่มาขายหลายคน ก็เป็นการขายทองที่มีน้ำหนักมากแล้วเปลี่ยนไปซื้อทองที่มีน้ำหนักน้อยแทน เช่น ขายสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แล้วเปลี่ยนไปซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ส่วนเงินที่เหลือจากการขายทอง ก็จะนำไปจับจ่ายซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาทองคำยังคงผันผวนสูงในปี 2567 นี้เนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยง สถาบันการเงินจำนวนมากจึงคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวอยู่ในระดับปัจจุบันไปจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ช่วงเวลาเช่นนี้จึงยังเหมาะสมที่จะซื้อทองคำเก็บไว้บ้าง เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลกำไรได้ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในระยะยาว อีกอย่างถ้าเก็บเงินสดไว้ก็จะทำให้เราใช้จ่ายเงินได้ง่าย การเก็บเงินไว้ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมั่นคงอย่างทองคำ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดในขณะนี้