เงินเฟ้อเริ่มลด ทองเตรียมร่วง
ทองคำคือสินทรัพย์ปลอดภัยที่ใช้ปกป้องอำนาจของการจับจ่ายใช้สอยมาอย่างยาวนาน สาเหตุหนึ่งคือทองคำเป็นสิ่งที่มนุษย์คุ้นเคยในการใช้เป็นเงินตรามาตลอดหลายพันปี มาจนถึงในปัจจุบันธนาคารกลางส่วนใหญ่ทั่วโลกก็ยังคงสะสมทองคำไว้เพื่อเป็นหลักประกันว่าเงินตราที่ประเทศตัวเองผลิตออกมายังมีมูลค่า
แต่ปริมาณเงินที่ถูกผลิตออกมาในระบบกลับมีมากขึ้นไปตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกันมีสัดส่วนน้อยลง จึงทำให้เงินตรามีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยน้อยลงไปด้วยหรือที่เรียกกันว่าเงินเฟ้อ
ในช่วงเวลาที่เงินเฟ้อขึ้นสูงก็หมายความว่าต้องใช้เงินปริมาณมากขึ้นในการจับจ่ายใช้สอย รวมไปถึงการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ โดยเฉพาะทองคำ
ในช่วงหลังสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ได้เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรงไปทั่วโลก ซ้ำเติมในปีต่อมาด้วยเหตุการณ์คว่ำบาตรทางการค้าจากนานาชาติกับรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน ทำให้ราคาทองคำสร้างจุดสูงใหม่ติดต่อกันภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
ในปลายปี 2023 นี้ถึงแม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรต่อรัซเซียและความวุ่นวายด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกจะยังมีอยู่ แต่ระบบเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณว่ากำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ได้ในระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกในการลดระดับเงินเฟ้อด้วยกการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี จึงทำให้อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง
โดยเฉพาะระดับเงินเฟ้อของสหรัฐฯซึ่งเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วางไว้เข้าไปทุกทีที่ 2% จึงมีโอกาสมากขึ้นที่ทองคำจะถูกเทขายเพื่อนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่า เพราะทองคำมีจุดอ่อนสำคัญคือไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ดังนั้นหากระบบเศรษฐกิจมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำนักลงทุนจะสนใจทางเลือกในการลงทุนอื่นมากกว่า