กำไรขายทอง ไม่ต้องเสียภาษี
ในเดือน ก.ย. 2566 ที่ผ่านมากรมสรรพากรได้เสนอแนวทางจัดเก็บภาษีจากคนที่มีเงินได้ในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อนำเข้ามาแล้วต้องถูกตรวจสอบภาษี ไม่ว่าจะนำเข้ามาในปีไหนก็ตาม จากเดิมที่หากนำเข้าข้ามปีจะไม่ถูกเก็บภาษี ยิ่งไปกว่านั้นกระทรวงการคลังยังมีแนวคิดให้จัดเก็บภาษีทันทีที่มีเงินได้ไม่ว่าเกิดขึ้นที่ใดในโลก
แหล่งข่าวระบุว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิก Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes เพื่อส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในกรอบความร่วมมือขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของไทยที่พร้อมจะร่วมมือกับ OECD ในการป้องกันการหลบหลีกหรือหลีกเลี่ยงภาษี และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติตามที่ Global Forum กำหนดให้ประเทศไทยต้องดำเนินการภายในปี 2566
โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูล จะทำให้ประเทศไทยได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบติดตามภาษีของประเทศไทยมากขึ้น ต่อไปคนไทยมีบัญชี มีทรัพย์สินอยู่ต่างประเทศ รายได้ที่เกิดขึ้นในต่างประทศ ข้อมูลจะถูกส่งแบบอัตโนมัติ เป็นการขยายฐานภาษีทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพให้คนเข้าระบบ เพราะจะอยู่นอกระบบยากขึ้น การหลบเลี่ยงภาษีจะยากขึ้น และเม็ดเงินภาษีก็จะเพิ่มขึ้น
แต่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เข้าข่ายประเภทเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) ในกรณีที่เป็นทองคำแท่งหรือรูปพรรณ ซึ่งไม่ใช่กองทุนหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และกระทำธุรกรรมในฐานะของบุคคลธรรมดา หากมีกำไรไม่ต้องนำส่วนต่างมาคำนวณเป็นภาษีเงินได้ จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการสะสมความมั่งคั่งซึ่งนอกจากจะลดผลกระทบจากเงินเฟ้อได้แล้ว ยังไม่โดนหักผลปรโยชน์ในรูปของภาษีไปอีกด้วย