นักลงทุนทั่วโลกยังคงต้องติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส ที่ยังคงร้อนระอุหลังจากที่อิสราเอลประกาศให้ชาวบ้านอพยพออกจากฉนวนกาซาทางตอนเหนือเนื่องจากจะโจมตีกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก เพิ่มความกังวลว่าสงครามจะขยายวงกว้างมากขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของประเทศในตะวันออกกลาง

ในอดีตที่ผ่านมาการปะทะกันของคู่ขัดแย้งนี้จะจบลงภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่สงครามของ อิสราเอล-ฮามาส ในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับอิสราเอลเป็นอย่างมาก จึงอาจเป็นเหตุให้อิสราเอลต้องการกวาดล้างฮามาส จนอาจนำไปสู่ความไม่พอใจของฝั่งประเทศที่สนับสนุนปาเลสไตน์ได้

โดยเฉพาะประเทศอิหร่านซึ่งหากเกิดไม่พอใจในกรณีที่อิสราเอลส่งกำลังทหารภาคพื้นดินเข้าสู่พื้นที่ของฉนวนกาซ่า อาจปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งมีการขนส่งน้ำมันวันละ 17.2 ล้านบาร์เรล คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของการขนส่งน้ำมันโลก อาจดันราคาน้ำมันพุ่งเกินกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

หากน้ำมันมีราคาเพิ่มสูงขึ้นก็หมายความว่าราคาสินค้าและบริการต่างๆจะต้องมีต้นทุนพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วยจนภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งเช่นเดียวกับเหตุการณ์ชาติตะวันตกคว่ำบาตรน้ำมันจากรัซเซีย