Social Media ที่คนไทย 'นิยม' ใช้มากที่สุด อันดับ 1 ก็คือ Facebook และจากข้อมูลที่เผยแพร่ของ Meta ระบุว่า Facebook ในประเทศไทยมีผู้ใช้งานถึง 48.10 ล้านคนในช่วงต้นปี 2023 ซึ่งเป็นโอกาสให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ด้วย

พฤติกรรมที่มิจฉาชีพนิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์ Facebook ในการหลอกลวงประชาชนให้สูญเสียทรัพย์สิน ในปัจจุบันมักจะแอบอ้างชื่อหรือใช้โลโก้ของหน่วยงานภาครัฐ หรือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ต่าง ๆ อาทิ การเชิญชวนซื้อกองทุนในตลาดหลักทรัพย์ ลงทุนเพื่อรับเงินปันผลสูงซึ่งรับรองโดยสำนักงาน กลต. หรือของธนาคารเป็นต้น

ล่าสุดมิจฉาชีพได้อาศัยปลอมตัวเป็นร้านทองเพื่อล่อลวงเหยื่อให้มาลงทุนในลักษณะต่างๆ แต่มีจุดสังเกตุที่คล้ายกับการหลอกลวงในลักษณะอื่นๆก็คือ

1. โฆษณาชักชวนโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงเกินจริง โดยใช้เวลาลงทุนไม่นานและง่ายดาย ซึ่งทำให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากเพราะคาดหวังในผลตอบแทนดังกล่าว เช่น เงินลงทุน 10,000 บาท จะได้รับกำไร 30% ในระยะเวลา 7 วัน

2. การันตีผลตอบแทน โดยกำหนดเป็นตัวเลขที่แน่นอน เช่น 30% ต่อสัปดาห์ หรือการการันตีว่าจะได้รับผลตอบแทนแน่นอน หรือมีผู้เชี่ยวชาญคอยลงทุนให้

3. อ้างชื่อร้านทองที่มีชื่อเสียง หรือมีการนำภาพของผู้บริหารหรือเจ้าของมาแอบอ้างเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการลงทุน

4. ให้รีบตัดสินใจลงทุน โดยมักจะมีเงื่อนไขหรือกระบวนการตรวจสอบประวัติลูกค้าน้อยมาก และให้เข้ากลุ่ม Line เพื่อเป็นการกระตุ้นให้รีบตัดสินใจลงทุน

5. ให้โอนเงินเข้าบัญชีบุคคล ซึ่งมิจฉาชีพจะมีการร่างหนังสือแต่งตั้งปลอมจากบริษัทว่ามอบหมายให้บุคคลดังกล่าวรับเงินแทน ซึ่งตามปกติบริษัททุกแห่งจะไม่ทำเด็ดขาดเพราะเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฏหมายฟอกเงินและเลี่ยงภาษี

หากเราสงสัยว่าการลงทุนเหล่านั้นจะเป็นการหลอกลวงหรือไม่ ในขั้นต้นสามารถตรวจสอบรายชื่อสมาชิกสมาคมค้าทองคำจาก https://www.goldtraders.or.th/MemberZones.aspx และโทรสอบถามอีกครั้งก่อนดำเนินการใดๆต่อไป