Morning News Update 28-03-2568 ตลาดทองคำนิวยอร์ก

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1.2% ในวันพฤหัสบดี (27 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงและตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์
.
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 38.50 ดอลลาร์ หรือ 1.27% ปิดที่ 3,061.00 ดอลลาร์/ออนซ์
.
ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพุธที่ 26 มี.ค. เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กในอัตรา 25% จากเดิมที่ระดับ 2.5% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ส่วนการเรียกเก็บภาษีชิ้นส่วนรถยนต์จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย.
.
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ในวันที่ 2 เม.ย. โดยรัฐบาลสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อกลุ่มประเทศ "Dirty 15" หรือ 15 ประเทศที่มียอดเกินดุลการค้าสูงสุดกับสหรัฐฯ
.
รายงานระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแคนาดาและฝรั่งเศส ได้ประกาศว่าจะใช้มาตรการตอบโต้หลังจากปธน.ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25%
.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก และยังทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3,071.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ในระหว่างวัน
.
โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปี 2568 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3,100 ดอลลาร์ โดยระบุว่าความต้องการทองคำของธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ที่มา : https://www.ryt9.com 

หน้าหลัก ปรึกษาฟรี! คลิกที่นี่ เมนู