สภาทองคำโลกแจงผลกระทบ มาตรการภาษีสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2568 ฮวน คาร์ลอส อาร์ติกัส หัวหน้าฝ่ายวิจัยสภาทองคำโลก และ จอห์น รีด นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสประจำยุโรปและเอเชียสภาทองคำโลก ตอบประเด็นคำถามด้านมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ และผลกระทบต่อตลาดทองคำ ชี้ปริมาณทองคำคงคลังในลอนดอนได้ลดจำนวนลง แต่ไม่มากอย่างที่บางคนได้คิดไว้
สภาทองคำโลก ระบุว่า ในช่วงปลายปี 2567 ปริมาณทองคำคงคลังที่อยู่ในตลาด COMEX (ตลาด Commodity Exchange ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา) ได้เริ่มเพิ่มจำนวนสูงขึ้น เนื่องจากความกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าทองคำนั้นได้เพิ่มสูงขึ้น
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดทองคำ แม้ว่าทองคำจะยังไม่ได้เป็นเป้าหมายของมาตรการภาษีศุลกากรโดยตรง แต่ความกังวลเกี่ยวกับภาษีโดยรวมยังคงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำและรูปแบบการซื้อขายซึ่งสามารถมองเห็นได้ แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2568
โดยปัจจุบันปริมาณทองคำในตลาด COMEX ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน (COMEX registered) ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 300 ตัน (9 ล้านออนซ์) ขณะที่ทองคำที่มีสิทธิ์ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ (COMEX eligible) เพิ่มขึ้นมากกว่า 500 ตัน (17 ล้านออนซ์)
โดยทั่วไปแล้วทองคำในรูปแบบกายภาพและทองคำแท่งนั้นมักพบได้ในตลาด OTC (Over-the-counter หรือการซื้อขายทองคำนอกตลาดหลักทรัพย์) ที่เมืองลอนดอนมากกว่า เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการซื้อขายขนาดใหญ่และมักเป็นสถานที่เก็บรักษาทองคำที่มีต้นทุนต่ำกว่า ภายใต้สภาวะตลาดปกติลอนดอนยังเป็นแหล่งที่สามารถส่งทองคำไปยังสหรัฐฯ ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้ซื้อขายทองคำหลายรายได้เลือกที่จะเตรียมการล่วงหน้าเพื่อรับกับความเสี่ยงจากมาตรการภาษีศุลกากร และเคลื่อนย้ายทองคำไปยังสหรัฐฯ ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต
แน่นอนว่าการเคลื่อนย้ายทองคำเข้าสู่ประเทศสหรัฐฯ จากทั่วโลกอาจจำกัดปริมาณทองคำที่ส่งไปยังตลาดอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงลอนดอน อย่างไรก็ตามสภาทองคำโลกเชื่อว่าผลกระทบนี้น่าจะเป็นเพียงระยะชั่วคราวเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากทองคำมีแหล่งอุปทานที่หลากหลายทั้งจากการผลิตเหมืองแร่และการรีไซเคิลซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก
นอกจากนี้สัญญาณบางประการที่แสดงว่าตลาดกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เริ่มปรากฏขึ้น เช่น อัตราการสะสมเพิ่มขึ้นของปริมาณทองคำคงคลังในตลาด COMEX ได้ชะลอตัวลง ส่วนต่างระหว่างราคาทองคำที่ซื้อขายล่วงหน้าและราคาทองคำที่ซื้อขายในตลาดปัจจุบัน ได้ปรับลดลง และส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ-เสนอขาย (Bid-Ask Spread) ของกองทุน ETF ทองคำ
ทั้งนี้ทองคำนั้นยังไม่ได้เป็นเป้าหมายโดยตรงของมาตรการภาษีศุลกากร แต่ปฏิกิริยาของตลาดต่อความไม่แน่นอนด้านการค้าได้ส่งผลให้พฤติกรรมการซื้อขายนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ การเคลื่อนย้ายทองคำจากลอนดอนไปยังสหรัฐฯ และการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียม (Premium) ในตลาด COMEX รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับปริมาณทองคำที่มีอยู่นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการตัดสินใจเพื่อการบริหารความเสี่ยงมากกว่าที่จะเป็นปัญหาด้านอุปทานที่แท้จริง
เมื่อปริมาณคำขอถอนทองคำจากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษที่ค้างอยู่ลดจำนวนลง และได้รับการจัดการไปอย่างต่อเนื่อง ความผันผวนเหล่านี้ก็น่าจะคลี่คลายลงได้ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์