แครี่เทรดป่วนโลกการเงิน กระทบถึงทอง
ราคาสินทรัพย์ในตลาดการเงินทั่วโลกถูกเทขายอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. รวมไปถึงทองคำซึ่งมักจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่ตลาดเกิดความกลัว แต่ก็ถูกเทขายทำกำไรออกมาเช่นกัน ถึงแม้จะมีประเด็นการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession)
รอยเตอร์ส ระบุว่า นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกำลังชี้เป้าตรงกันว่า การที่ตลาดหุ้นโลกตกต่ำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาน่าจะมาจากการ “ถอนแครี่เทรด” (Carry trade unwind) ที่นักลงทุนใช้ในการเก็งกำไร มากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าการทำแครี่เทรดโดยเฉพาะ “เงินเยน” ของญี่ปุ่น น่าจะเป็นต้นเหตุสำคัญมากกว่าปัจจัยเศรษฐกิจพื้นฐาน
แครี่เทรดคือ การกู้ยืมสกุลเงินที่ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อไปลงทุนส่วนต่างในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ กรณีของ “ญี่ปุ่น” ที่อยู่ในภาวะดอกเบี้ยติดลบมานาน และเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยเป็นระดับ 0-0.10% ไปเมื่อเดือนมี.ค.ปีนี้ สวนทางกับ “สหรัฐ” ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.25 - 5.50% ทำให้นักลงทุนรายย่อยไปจนถึงนักลงทุนสถาบันนิยมกู้เงินเยนที่ต้นทุนต่ำไปลงทุนที่อื่น
ความนิยมทำแครี่เทรดเงินเยนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นผ่านค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างหนักในปีนี้ จนไปแตะที่ระดับประมาณ 161 เยนต่อดอลลาร์ หรืออ่อนค่าสุดในรอบ 38 ปี จนต้องมีการเข้าแทรกแซงค่าเงินหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนหลังการประชุมรอบล่าสุดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 31 ก.ค.67 มีมติขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.25% พร้อมลดวงเงินซื้อพันธบัตร ท่ามกลาง “จังหวะเดียวกัน” กับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งสถานการณ์นี้จะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยน้อยลง และค่าเงินเยนจะเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น
เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากทำการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อเปลี่ยนเป็นสดและนำไปคืนผู้กู้ในสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น เนื่องจากกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ แต่สถานการณ์เช่นนี้มีโอกาสคงอยู่ไม่นาน หลังจากที่นักลงทุนส่วนใหญ่ปรับสัดส่วนการลงทุนแล้ว ราคาสินทรัพย์ในตลาดการเงินส่วนใหญ่ก็จะกลับมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวต่อไป