3 เหตุผล ทองแพงแค่ไหนก็ยังน่าซื้อ
ราคาทองคำแท่งในประเทศทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ระดับ 42,000 บาท/บาททองคำเมื่อวันที่ 17 ก.ค. หลังนักลงทุนทั่วโลกคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หรือมากขึ้น ในขณะที่เงินเฟ้อยังไม่ลดลงสู่งระดับเป้าหมาย ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งยังสนใจที่จะซื้อทองคำต่อไปเพื่อปกป้องผลกระทบจากเงินเฟ้อในขณะที่ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่สมควรมีไว้ในครอบครองไม่ว่าราคาจะแพงขึ้นแค่ไหน คือ
1. ทองคำเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่อย่างจำกัดบนโลก และการผลิตแร่ทองคำขึ้นมาจากแร่ธาตุชนิดอื่นก็ทำได้ยาก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ไม่มีแร่อื่นมาทดแทนได้ในด้านความเสถียรซึ่งไม่ทำปฏิกริยากับสารเคมีส่วนใหญ่ในธรรมชาติ ทำให้ทองคำยังมีสภาพเหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน โดยในปัจจุบันเหลือทองคำจากแหล่งแร่อยู่ประมาณ 59,000 ตันเท่านั้น และหากไม่มีการพบสายแร่หรือวิธีการสกัดทองคำใหม่ๆ ทองคำทั้งหมดจะถูกขุดในเวลาประมาณ 20 ปี และหากความต้องการของมนุษย์ที่มีต่อทองคำยังไม่เปลี่ยนไป ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. เป็นวัตถุที่ใช้สะสมมูลค่าซึ่งคนยอมรับมาอย่างยาวนานตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เนื่องจากคุณสมบัติที่คงทนต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก สามารถแยกเป็นส่วนย่อยและนำกลับมารวมใหม่โดยทุกอย่างยังเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังหาได้ยาก จึงถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานที่เอาชนะกาลเวลาได้อย่างดีว่าทองคำคือของมีค่าที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งอื่นได้
3. เป็นการกระจายการลงทุนที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่นที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูงกว่า แต่เมื่อถึงเวลาที่ราคาของสินทรัพย์เสี่ยงเหล่านั้นลดลงก็มักจะทำให้เงินทุนไหลเข้ามาซื้อทองคำเสมอ การมีทองคำอยู่บ้างและเข้าซื้อเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินที่เราสะสมมาตลอดชีวิตจะค่อยๆเติบโตไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ