วิกฤตธนาคารซ้ำซ้อน หนุนแรงซื้อทอง
ย้อนกลับไปช่วงต้นปี 2023 เกิดวิกฤตแบงก์ในสหรัฐฯ นำไปสู่การล่มของธนาคารระดับภูมิภาค 3 แห่งในสหรัฐฯ ได้แก่ Silicon Valley Bank (SVB), First Republic, และ Signature Bank รวมไปถึงกรณีเงินสดขาดมือของ Credit Suisse ที่สร้างความหวาดวิตกในยุโรปจนราคาทองพุ่งขึ้นกว่า 200 ดอลลาร์ จนกระทั่งมีมาตรการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมของทางการสหรัฐฯ ราคาทองจึงเริ่มปรับฐานลงมา
ล่าสุดวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมามูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารนิวยอร์ก คอมมิวนิตี แบงคอร์ป (New York Community Bancorp - NYCB) ลงสู่อันดับขยะ (Junk) ซึ่งการประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจาก NYCB ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐเปิดเผยว่า ขาดทุน 252 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.8 พันล้านบาท) ในไตรมาส 4/23 พร้อมตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญสูงถึง 552 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.9 หมื่นล้านบาท) จากระดับ 62 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/23 โดยการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นเกือบ 800% นี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากหนี้ที่สงสัยว่าจะสูญ (Expected Losses) จากการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และอาคารสำนักงาน (Office Building) จำนวนมาก
สถานการณ์ของ NYCB ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนให้เริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ อีกครั้ง และช่วยหนุนราคาทองคำให้เกิดการดีดตัวขึ้นมาได้ท่ามกลางแรงกดดันจากท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าอาจมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์กันไว้ ราคาทองคำจึงผันผวนมากขึ้นในขณะนี้ และเพิ่มโอกาสในการเข้าเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนระยะสั้น