คนจีนแห่ตุนทอง รับหยวนอ่อนค่า
ประเทศจีนนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ปริมาณกว่า 1,447 ตัน ในปี 2566 ทำลายสถิติเดิมที่ 1,427 ตันในปี 2561 และมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 9 เท่าเมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนพยายามหาสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า และความกังวลจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นจีน
ด้านยอดขายทองคำภายในประเทศในจีนสูงถึง 1,090 ตันในปี 2566 โดยการบริโภคเครื่องประดับทองเพิ่มขึ้น 7.97% เมื่อเทียบกับปี 2565 ส่วนการซื้อทองคำแท่ง และเหรียญกษาปณ์เพิ่มขึ้น 15.7% ตามข้อมูลของสมาคมทองคำของจีน สาเหตุหนึ่งมาจากการเข้าถึงสินทรัพย์ในต่างประเทศของคนจีนมีขอบเขตจำกัด ทำให้ชนชั้นกลางของจีนพยายามรักษาความมั่งคั่งของตนด้วยทองคำแทน
ตามรายงานของสื่อจากประเทศญี่ปุ่น เผยว่า ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในจีนสะท้อนผ่าน ค่าสเปรดหรือค่าพรีเมียม โดยราคา spot ทองคำในจีน ผ่านตลาด Shanghai Gold Exchange อยู่ที่ประมาณ 470 หยวน หรือ 65 ดอลลาร์ ต่อกรัม สูงกว่าราคาทองคำในลอนดอน โดยมีค่าพรีเมียมประมาณ 40 ดอลลาร์ หมายความว่าคนจีนเต็มใจซื้อทองในประเทศแพงกว่าราคาทองในตลาดโลก
สะท้อนว่าวิกฤติหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจของจีน และเงินหยวนที่อ่อนค่าลง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี มีความน่ากังวลอย่างมากในมุมมองของคนจีนและกระตุ้นให้เกิดการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น