เก็ง “เฟด” ใกล้หั่นดอก ดันทองระยะสั้น
นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ตัดสินใจให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 5.25-5.5% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน ก็เริ่มมีคาดการณ์จากทั้งนักเศรษฐศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเศรษฐกิจมากมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเริ้มลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาดไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2023 นักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ธนาคารรายใหญ่ที่สุดในเยอรมนี เผยคาดการณ์ว่า ในปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve System : Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างจริงจังมากกว่าที่ตลาดคาดในปัจจุบัน เนื่องจากสหรัฐจะเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบอ่อน ๆ ในช่วงครึ่งแรกของปี
โดยคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.75% ภายในปี 2567 โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเบื้องต้น 0.50% ในการประชุมในเดือนมิถุนายน 2567 ตามด้วยการปรับลดอีก 1.25% ในช่วงครึ่งปีหลัง
ความเคลื่อนนี้จะส่งผลดีต่อราคาทองคำในระยะสั้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของฝั่งยุโรปมีแนวโน้มจะลดลงช้ากว่าจากระดับเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างเชื่องช้า เพราะสงครามในยูเครนยังคงไม่จบลง ผลตอบแทนพันธบัตรของฝั่งยุโรปจึงมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าโดยเปรียบเทียบ และจะทำให้กระแสเงินลงทุนไหลออกจากสหรัฐฯไปยังยุโรป ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับลดลงและส่งผลบวกต่อราคาทองคำโดยตรง