นำทองเข้าไทย รู้ไว้ต้องเสียภาษี

นำทองเข้าไทย รู้ไว้ต้องเสียภาษี
ถึงแม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกของการลงทุนที่มีความน่าสนใจ เพราะช่วยให้ปรับแผนการลงทุนให้เป็นการเก็งกำไรระยะสั้น หรือถือลงทุนระยะยาวก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความเป็นสากล สามารถซื้อขายได้ทั่วโลกอีกด้วย
แต่หากต้องการไปซื้อทองคำจากต่างประเทศเพื่อนำมาขายในประเทศไทยอาจต้องมีขั้นตอนและต้นทุนเพิ่มเติมเล็กน้อยกรณีนำทองคำแท่งติดตัวเข้ามาโดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรขาเข้า เพื่อเข้ามาในประเทศไทย ให้ผู้นำเข้านำทองคำไปสำแดง ณ ช่องมีสิ่งของต้องสำแดง หรือช่องแดง (Goods to declare)เนื่องจากทองคำแท่งเป็นของยกเว้นอากรขาเข้าแต่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจัดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำช่องแดงเพื่อตรวจสอบ
1. หนังสือเดินทาง
2. บัญชีรายการสินค้า หรือใบเสร็จรับเงิน (ถ้ามี)
วิธีปฏิบัติ แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 เป็นของติดตัวผู้โดยสาร และมีมูลค่าไม่เกิน 200,000 บาท หรือเป็นของชิ้นเดียวที่มีมูลค่าเกิน 200,000 บาท และผู้โดยสารพร้อมชำระค่าภาษีอากรในวันนำเข้า (เก็บอากรปากระวาง)
1.1 ผู้โดยสารชำระค่าภาษีอากรด้วยเงินสด หรือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเดบิต/บัตรเครดิต) ในกรณีที่ด่านศุลกากรมีระบบรับชำระด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์
โดยผู้โดยสารชำระค่าธรรมเนียมการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามอัตราที่ธนาคารกำหนด
1.2 รับใบเสร็จรับเงินและรับสิ่งของ
กรณีที่ 2 เป็นของติดตัวผู้โดยสาร และมีมูลค่าเกิน 200,000 บาท
2.1 ผู้โดยสารจัดทำใบขนสินค้าขาเข้ายื่น ณ ฝ่ายพิธีการกลาง ส่วนบริการภาษีอากร ชั้น ๒ อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
2.2 ชำระค่าภาษีอากรด้วยเงินสด หรือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเดบิต/บัตรเครดิต) ในกรณีที่ด่านศุลกากรมีระบบรับชำระด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยผู้โดยสารชำระค่าธรรมเนียมการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามอัตราที่ธนาคารกำหนด
2.3 รับใบเสร็จรับเงินและรับสิ่งของ
หรือหากคิดว่าจะลักลอบผ่านเข้ามาก็อาจมีความผิดได้ ถึงแม้ว่าบางรายอาจเคยนำทองคำจากต่างประเทศเข้ามาได้โดยไม่ถูกตรวจค้นซึ่งถือว่าเป็นโชคดี แต่หากโชคนั้นหมดลงอาจต้องเจอทั้งค่าปรับและการดำเนินคดีได้ ดังนั้นการทำตามกฏหมายที่กำหนดไว้จะปลอดภัยมากกว่า
หน้าหลัก ปรึกษาฟรี! คลิกที่นี่ เมนู