ในวันพุธที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 1 ครั้งในการประชุมในอนาคต แต่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก.

รายงานการประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า กรรมการเฟดตระหนักถึงความเสี่ยงอื่นที่อยู่นอกเหนือจากเงินเฟ้อ โดยเฉพาะราคาพลังงานและอาหารทั่วโลกซึ่งอาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรอบใหม่ ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก, การประท้วงของแรงงาน และตลาดการเงินที่อยู่ในภาวะตึงตัว ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างคาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน และสิ่งที่เฟดให้ความสนใจเป็นพิเศษคือผลกระทบต่อการจ้างงาน

แองเจโล คอร์คาฟาส นักวิเคราะห์จากบริษัท Edward Jones กล่าวว่า รายงานการประชุมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเฟดเล็งเห็นถึงความเสี่ยงของการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป และช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จึงเริ่มปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนหันไปสนใจราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ปรับฐานลงมาอยางมากก่อนหน้านี้จึงมีโอกาสดีดตัวได้สูง จึงเป็นจังหวะที่น่าเข้าเก็งกำไรในระยะสั้น